วันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ผลลัพธ์แห่งการตลาดในรูปแบบกิจกรรม + Ads


ภาพที่เห็นอยู่คือการจัดกิจกรรมทายเลขท้าย 2 ตัว และเพิ่มการลงโฆษณาวันล่ะ 30 บาทเข้าไปแบบเข้ากลุ่มเป้าหมาย จะเห็นได้ว่ามีกระแสตอบรับที่โอเคมาก แทบจะปิดออฟฟิตฉลองความสำเร็จด้านการตลาดรูปแบบนี้ได้เลย เพราะใช้เวลาแค่ 1 วันกว่าๆ เราได้คนถูกใจเพจมากขึ้นมากกว่า 100 คน และมีกมาพบเห็นจากการแชร์ การถูกใจ การบอกต่อที่เป็นข้อดึของระบบ fb มาถึง 4584 คน การแชร์มี 165 แชร์ และ ถูกใจ 220 คน  แต่ที่สำคัญมีคนมาร่วมสนุกกับเรามากถึง 234 คนเลยทีเดียว
ในขนาดที่เขียนอยู่นี้ ยังไม่ปิดกิจกรรมคาดว่าเพิ่มขึ้นอีก 10-20%


เรามาดูค่าใช้จ่ายกันน่ะครับ ว่าผลที่ได้รับมันคุ้มค่าแค่ไหน

57 บาทเท่านั้นครับ คิดว่ากว่าจะปิดกิจกรรมนี้คงจะหมดไปแค่ 60 บาทเท่านั้นเอง  การตอบรับจากโฆษณามีเพียง 2111 คนเท่านั้น อีก 2400 คนนั้นเห็นได้จากการแชร์และการมีส่วนรวมนั้นเองครับ
การลงทุน + ความรู้ที่ถูกต้อง ทำให้เราใช้งบประมาณได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่เป็นได้เลยทีเดียวครับ

วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2556

อีกวันหนึ่งผ่านไป

วันนี้เป็นวันที่ 30 ตุลาคม ผมได้ตัดสินใจว่าผมน่าจะเข้ามาเขียนในบล็อกนี้ทุกวัน อย่างน้อยก็น่าจะสรุปผลให้กับตัวเองได้ และค่อยเตือนกับตัวเองได้ทุกวันว่ากำลังทำอะไรอยู่ในตอนนี้

ตอนนี้ผมน่าจะเริ่มทำอะไรบางอย่างได้แล้ว เวลาผมจะทำอะไรนั้นผมจะเข้ามาที่นี้ เพื่อบันทึกความทรงจำและแนวทางที่ผมได้เริ่มและเฝ้ามองดูหรือย้อนกลับไปอ่านเมื่อผมหลงทาง

ตอนนี้ผมมีสกิลอะไรอยู่ 1. Youtube 2. Ads Fb
และแน่นอนว่าสกิลของผมในตอนนี้มันไม่ใช่สกิลพื้นฐานที่คนทั่วไปเค้ารู้กันครับ ผมค้นพบเมื่อ 4 เดือนที่แล้วและแน่นอนว่ามันเคยเป็นรายได้หลักของผม จนผมหันไปศึกษาเรื่อง Ads Fb ก็เลยหยุดทำทุกอย่างเพื่อทดลองทำและลองวิชา ตอนนี้หยุดแล้ว คงต้องทำอะไรหลายอย่างให้พร้อมกันเหมือนเดิม

วันอังคารที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ผมแพ้ครับ แต่ผมไม่ยอม ผมจะเริ่มใหม่

ระยะเวลาที่ผ่านมาเหมือนได้จริงจังกับการใช้ชีวิต แต่มันก็เป็นแค่ช่วงแรกเท่านั้น ช่วงที่มีสมาธิ ความฝัน และปัญญาที่เกิดขึ้น มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ทำให้เราละเลยสิ่งที่เรากำลังจะทำ สิ่งที่เราวางแผน สิ่งที่เราน่าจะทำ  สิ่งเหล่านั้นคือข้ออ้างสำหรับผมเองในตอนนี้ และผมจะไม่พูดถึงมัน และผมต้องยอมรับว่าศึกครั้งแรกของผม ผมแพ้มันครับ  แต่ในสิ่งที่แพ้นั้นเราก็ได้อะไรกลับมาพอสมควร.. ตอนนี้ผมออกจากงานประจำแล้วครับ นั้นคืออิสระที่ผมจะทำมัน

การออกจากงานโดยที่ไม่มีเงินเก็บเลยซักบาท มีแค่เงินเดือนเดือนสุดท้ายที่ได้รับ 21000 บาท
กับภาระที่ต้องมีค่าใช้จ่าย เช่น ให้คุณแม่ ค่าเนต ค่า vps ค่ามือถือเป็นต้น
สามเดือนแรกที่ออกมานั้น จำได้เลยว่าตื่นตัวในการหาเงินอยู่ตลอดเวลา ทำงานทั้ง 7 วันโดยไม่หยุด
ในใจเราก็คิดว่า เราไม่มีวันหยุดแล้วน่ะ เราเป็นเจ้านายตัวเองแล้ว

จนผ่านไปสามเดือนเหมือนได้ผ่านโปร ผมมีรายได้หมุนเวียนเข้ามาอยู่ประมาณ 40000 บาทติดต่อกันมา 3 เดือน
ที่มาจากการถ่ายภาพ การเป็นฟรีแลน์ให้บริษัทเก่า และการให้บริการทำอันดับโดยใช้ youtube แต่แล้วเดือนนี้ เดือนตุลาคม ผมหยุดทำไปเดือนนี้เหลือแต่รายได้จากการเป็นฟรีแลนซ์เดือนล่ะ 8000 บาทเท่านั้น เพราะผมหันไปทุ่มเทเอาความรู้เรื่องการลงโฆษณา FB ทำให้หมดเงินลงไปพอสมควร จริงๆเรียกว่ามากเลยล่ะ เพราะเงินเก็บที่ผมพึ่งจะเก็บได้ 2 เดือนเดือนล้ะ 18000 บาทต้องถอดออกมาใช้จ่ายค่าบัตรเครดิตอย่างหนีไม่ได้

ตอนนี้ผมรู้แล้วครับ ว่าผมไม่มีอะไร ผมไม่มีการจัดการที่ดี การวางแผนที่ดี ว่าในแต่ล่ะวันล่ะเวลาเราควรที่จะทำอะไรให้บรรลุเป้าหมาย ผมก็นึกถึงตัวเอง ผมเป็นลูกทหารและแนะนอนว่ามีระเบียบและความอดทนมากกว่าคนอื่นอยู่แล้ว ซึ่งได้พิสูทธิ์มาแล้วในวัยเด็ก วัยรุ่น ถ้าเทียบกับเด็กทั่วไป แต่เมื่อโตขึ้น ผมกลับลืมความรู้สึกนั้นไป และผมพร้อมที่จะกลับมาแล้ว และคงจะต้องมีการวางแผนการทำงานใหม่แล้ว

ตอนนี้สิ่งที่ผมทำอยู่ก็คือการปั่น youtube และ Ads fb แบบคุ้มค่าที่สามารถช่วยประหยัดเงินได้มากกว่า 40% ตามกรณีที่รูปภาพและข้อความของเราดึงดูด  อยากตั้งกำหนดการให้ตัวเองไหม

ขอตั้งเป็น ก่อนปีใหม่จะต้องมีคลิปที่เราทำอยู่ 1000 คลิป และมีคนเข้าดู 10000 คน
เพื่อสำรวจดูว่าตลาดที่เราเล่นอยู่นั้น สามารถทำรายได้มากหรือน้อยเพียงใด เหมาะที่จะทำต่อหรือย้ายตลาดดีกว่ากัน



ขอบคุณมากครับ ที่เข้ามาอ่านดู  เวลา 2 ปี มันช่างรวดเร็วจริงๆ

วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เวลามักแปรเปลี่ยน ยิ้มสู้ไว้

จะสองปีแล้วสิน่ะ ผมคงเป็นคนที่แย่มากสิน่ะ ทำอะไรก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน  ตอนนี้มีแต่ความรู้เต็มไปหมด นี่สิน่ะ ความรู้แน่น แต่ทำไม่ได้ในชีวิตจริง

เรายังขาดอะไร  ใครรู้บอกที

วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

21/2/2556

สวัสดีครับ หลังจากที่ได้หายไปเพื่อเรียนรู้สักพัก ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนโดนกระตุ้นให้ทำงานมากขึ้น เพราะเนื่องจากว่า ผมได้จ่ายเงินเพื่อเอาความรู้มาต่อยอดกับสิ่งที่ผมทำอยู่ เป็นการซื้อเทคนิคครั้งแรกของผม ที่เป็นของต่างประเทศ ซึ่งแน่นอนว่า มันออกมาได้ผลดีครับ

จริงๆ แล้ว ความรู้นี้ที่ได้มานั้น ผมรู้แล้วประมาณ 70% เลยทีเดียว แต่จำนวนเงินกับความรู้สึกที่ได้รับนั้นคุ้มค่ากับอีก 30% ที่เหลือ มันทำให้ผมได้มีความคิด ที่จะวางแผนได้ทำงานในอนาคตต่อไป

SEO ในตอนนี้ผมไม่มุ่งเน้นสักเท่าไรแล้วครับ แต่มุ่งด้านการตลาดมากกว่า ซึ่งแน่นอนครับ นักการตลาดออนไลน์ในต่างประเทศก็หันเหมาแนวทางนี้กันเป็นส่วนใหญ่แล้ว ซึ่งผมคิดว่าตอนนี้การตลาดที่แท้จริง จะเข้ามามีส่วนร่วมบนอินเตอร์เนทในบ้านเรามากขึ้นอย่างแน่นอน

วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

18-02-56

สวัสดีครับ วันนี้เป็นวันเริ่มอาทิตย์ใหม่แล้วครับ การเรียนรู้ยังสำคัญอยู่เสมอ เมื่อวานนี้ผมได้เข้ากลุ่มลับสำหรับการทำ clickbank  และได้ลองอ่าน ebook สำหรับการทำ clickbank สามเล่มด้วยกัน  โชดดีอย่างครับที่แต่ล่ะเล่มนั้นมีมุมมองที่ไม่เหมือนกัน แต่สามารถนำไปเป็นทางเดียวกันได้ครับ

ตัวนี้เน้นการทำใน blog ฟรี host ฟรี domain ฟรี ไงก็จะลองลงมือทำดูกันสักตั้งครับ
ตอนนี้รอโปรแกรมที่จะต้องใช้เดินเครื่องอยู่ครับ ถ้าได้มาแล้วลองมาดูผลกันอีกทีครับ เอ้า..สู้ๆ

วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

15/02/56

สวัสดีครับ ทุกท่านที่ได้สนใจอ่านเรื่องราวของผม ถึงแม้ผมจะไม่ได้บอกข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อทุกท่านซะเท่าไร แต่การเข้ามาชมของทุกท่านทำให้ผมรู้สึกว่า มีคนติดตาม มีคนค่อยลุ้นผมอยู่น่ะ

เดือนนี้เป็นเดือนแรกที่ได้ออกจากงานประจำครับ สาเหตุที่ออกเพราะต้องการทำตรงนี้อย่างเต็มตัว
แต่ทางบริษัทก็ยังให้ผมเข้าไปทำงานอาทิตย์ล่ะ 2 วันอยู่ แต่ก็ถือว่าโอเคครับ เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ผมจะมีรายได้เข้ามา  

ตอนนี้ผมเริ่มจาก 0 จริงๆ ครับ ผมไม่มีเงินเก็บ ผมมีแต่ไอเดีย และเครื่องมือที่ผมได้เตรียมพร้อมไว้สมัยทำงาน เก็บหอมเอาไว้เรื่อยๆ จนสามารถซื้อเครื่องมือในการทำงานของผมได้แล้ว  ผมมีสคริปเว็บไซต์ส่วนตัว  ผมมีโปรแกรมส่งเมล์ และ เว็บบอร์ด ผมมี e-book ที่มีเทคนิดและแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อผมในสาย IM  

ครั้งนี้ ผมต้องสลัดคนเดิมในร่างเดิมออกจากตัวผมไปให้ได้ ผมมั่นใจว่าผมทำได้ นี่อาจจจะเหลือเวลาอีกแค่ ปีกว่า แต่ผมมองเห็นอนาคตของผมแล้ว และผมก็พร้อมที่จะเดินไปหาอนาคตที่ผมได้วาดไว้ ไม่ว่าจะถึงหรือไม่ ผมก็จะเดินไปหามัน

ขอบคุณทุกท่านที่รวมเชียร์ ร่วมลุ้นน่ะครับ

วันจันทร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2556

กระดาษแผ่นหนึ่ง

การสู้รบการกระดาษก่อนที่จะลงมือก่อนศึกนั้นมีความสำคัญยิ่ง หากในกระดาษยังไม่สามารถหาวิถีแห่งชัยชนะได้ เวลาลงมือทำจริงๆ ก็คงไม่ต่างจากเสือร้ายที่เข้าสู่กับดักที่หาทางออกไม่เจอ

วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556

21/01/56 บทความที่สองของปี

วันนี้ผมรู้สึกว่า ผมควรที่จะบอกอะไรกับตัวของผมเอง หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาที่ตั้งใจหาความรู้ด้วยการอ่านหนังสือ จนถึงช่วงเวลาที่มาบ่มเพราะความคิด วันนี้ 21/01/2556

"นายทำได้ว่ะ"

วันพุธที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2556

10/1/2556 บทความแรกของปี

               บทความนี้เป็นบทความแรกของผมในปี 2556  ผมได้นั่งคิดย้อนกลับไปในสิ่งที่ผมได้เป็นมา ทำมา และ ผ่านมา ทำให้ผมได้รู้สึกว่า เวลาที่ผ่านไปปีกว่า ๆ นั้น ผมไม่ได้ทำให้มันเต็มที่เท่าไรเลย ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน  ถามว่าได้ทำอะไรบ้างหรือป่าว ทำครับ แต่ไม่ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจเท่าไรน่ะ
รู้สึกความไม่เอาไหนของตัวเองได้อย่างชัดเจน หลังจากที่ได้เข้าวัดทำบุญในปีใหม่ ปีนี้ตั้งใจที่จะเป็นคนใหม่ คนที่ปรับตัวเอาเรื่องเอาราวกับชีวิตของตัวเองเสียที  สิ่งต่างๆ เมื่อมองกลับไปก็เป็นประสบการณ์ที่ทำให้เราเป็นเราในทุกวันนี้ ตั้งแต่ปีใหม่มา ผมซื้อหนังสือที่เกี่ยวข้องกับแรงบันดาลใจและการตลาดเป็นหลัก รวมถึงการนำเสนออย่างมีรูปแบบ เพราะผมมองเห็นความผิดพลาดของตัวเองที่ไม่สามารถสื่อสารความคิดของตัวเองออกมาเพื่อให้คนอื่นได้รับรู้และเข้าใจ ในเรื่องของงาน

ส่วนในเรื่องของความฝันนั้นผมคงไม่ต้องการให้คนอื่นเข้าใจผมสักเท่าไรหรอกครับ เพราะผมรู้ว่าคงไม่มีใครเห็นฝันผมได้ดีกว่าตัวผมเอง ตอนนี้เน้นทำอยู่สามสิ่งอย่างคือ
1. อ่าน 2. สมาธิ 3. ออกกำลัง  ผมว่าผมได้ความคิดอะไรดีๆ จากที่ได้ทำอย่างนี้มาช่วงปีใหม่น่ะครับ

ยิ่งสมาธินี่เป็นอะไรที่ทำให้เราเกิดความคิดดีๆ ขึ้นได้อย่างต่อเนื่องเห็นเป็นเรื่องเป็นราวกันเลยครับ
และมีอีกเรื่องครับ ไม่รู้ได้เขียนลงไปในบล็อกหรือยังคือ ผมต้องสร้างเงื่อนไขให้กับตัวเองครับ ไม่งั้นคงไม่ได้เริ่มทำสักที คือผมออกจากงานประจำครับ  เดือนนี้เป็นเดือนสุดท้ายครับ ตั้งแต่บอกกับทางเจ้านายว่าจะออกจากงาน จวบจนวันนี้ก็เป็นเวลา 4 เดือน ผมคิดอยู่ทุกวันครับจะทำอะไร จะมีเงินหรือป่าว
แต่ความคิดนั้นก็ทำให้มั่นใจด้วยการวางแผนครับ ตอนนี้ผมก็พร้อมที่จะอดมื้อกินมื้อ เพื่อให้งานของตัวเองธุรกิจของตัวเองได้เริ่มก้าวแรกสักที

สำหรับเพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่านนั้น หากมีโอกาสก็ออกมาทำของตัวเองก็ดีน่ะครับ การที่จะรออายุ 40 - 50 ปีนั้นมันหมดสมัยแล้วครับ  ช่วงนี้พลาดก็ยังมีแรงในการลุกเดินต่อไป

ขอขอบคุณเพื่อนๆ ที่ได้เข้ามาอ่านกันน่ะครับ